เรื่องเริ่มที่..
เธอวิ่งออกมาจากที่หลบฝน บนใบหน้าเธอแสนเศร้าและมีน้ำตา
กล้องจับเป็นภาพสโลว์ ที่รองเท้าเธอใกล้ๆ เห็นเท้าเหยียบน้ำฝนที่นองพื้น
แตกกระเซน..
เธอพยายามวิ่งหนีเขา....ชายหนุ่มที่เป็นคนรัก กล้องตัดกลับมาที่เขา
ด้วยภาพสโลว์เช่นกัน เขาค่อยๆกางร่มออก พร้อมกับวิ่งตามเธอออกไปที่ถนน
สายฝนกำลังโปรยปรายอย่างหนัก เขาวิ่งมาดักเธอด้านหน้า
ภาพตัดเห็นร่มยื่นมาปกป้องเธอจากสายฝน เธอเงยหน้ามองเขาอย่างช้าๆ
เห็นดวงตากระพริบสองสามครั้ง ภาพตัดมาที่ชายหนุ่ม พร้อมกับพูดว่า
"ผมขอโทษ"
เธอรู้สึกใจเต้นแรง อยากโผลเข้ากอดเขา แต่ไม่อาจทำได้ ไม่อาจที่จะให้อภัย
กับสิ่งที่เขาทำผิดต่อเธอ ภาพตัดอย่างช้าๆ อีกครั้งมาที่มือ เธอผลักร่มหลุด
ออกจากมือเขา...ปลิวไปตามแรงลมของสายฝน
เธอขยับตัวเดินออกมาจากเขา เห็นภาพชายหนุ่มจับแขนเธอไว้ แต่เธอก็
สะบัดหลุดมาจากมือเขาอีก พยายามหนีไปให้ไกล แต่เขาก็ยังก้าวเท้าตาม
พร้อมกับตะโกนฝ่าสายฝนที่ยังคงโปรยปราย
"ยกโทษให้ผมได้ไหม ผมรักคุณ"
คำพูดท้ายนั้นทำให้เธอหยุดเดิน ภาพจับที่ใบหน้า เธอค่อยๆหันมามอง
เขาทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นที่นองไปด้วยน้ำ ราวกับยอมรับในสิ่งที่เขาทำผิดต่อเธอ
ภาพตัดไปมาระหว่างเธอกับเขา แล้วกลับมาเป็นภาพกว้างเห็นทั้งทั้งสองคนแน่นิ่ง
เธอค่อยๆก้าวเท้าเดินกลับมาหาเขา ทรุดตัวลง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา...
"ฉันจะไม่ยกโทษให้เธอเป็นอันขาด " เขามีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
แล้วเธอก็พูดต่อว่า "ถ้าเธอยังไม่กอดฉันไว้" เธอพูดทั้งรอยยิ้มเห็นภาพสโลว์
ของชายหนุ่มกอดเธอไว้แน่น ราวกับกอดลูกนกที่กำลังหนาวสั่น เธอรู้สึกว่า..
สายฝนที่หนาวเย็นช่างอบอุ่นเสียจริง
ฉากความรักซึ้งและอบอุ่น...ยังมีเสียงเพลงคลอเป็นแบคกราวด์ ก่อนที่ภาพ
และเสียง..ค่อยๆเฟดลง...และมืดไปในที่สุด
...ฉากโรแมนติกสั้นๆ ที่แต่งเติมด้วยภาพของสายฝน มีแอฟเฟคภาพสโลว์กับ
เทคนิคการตัดต่อ ก็อาจทำให้คนที่ดูน้ำตาไหลไปกับฉากนี้และทุกอย่างก็..
แฮปปี้เอนดิ้ง...
...ถ้าในชีวิตจริง..การให้อภัย..เป็นสิ่งง่ายๆ และสวยงามเหมือนกับฉาก
ในภาพยนต์หรือละคร..ก็คงเป็นเรื่องดี..แต่ดูเหมือนว่า..ชิวิตจริงบางครั้ง
ก็เกินเลยกว่าที่จะเอาไปทำเป็นหนัง...ทั้งละเอียด..อ่อนไหวกว่า..และไม่
จำเป็นต้องใช้เอฟเฟคใดๆ..เพราะการแสดงล้วนออกมาจากข้างใน...
ที่บ้างครั้งเราเองก็ไม่รู้ตัว...เป็นมายาที่เราต่างต้องเล่น ทั้งที่ไม่เต็มใจกับ..
บางบท..บทที่ต้องร้องไห้เสียน้ำตาอยู่เป็นประจำ..