วันที่ 20 มิถุนายน 2552
...ใต้ฝันวันแดดงาม..ใต้หลังคาไม้ซี่ เป็นที่อยู่ของหมู่ไม้
ไม่ว่าจะเป็นหมากเหลืองเรียวใบสวย พลูด่างที่เลื้อยเลี้ยวแตกยอดอ่อน
เฟื่องฟ้าสีส้มแสด ทองไหลที่โน้มตัวไหลย้อย
ต้นไทรที่แตกรากเลื้อยพันหิน อีกทั้งโกสน สาวน้อยปะแป้ง
ดอกพุทธ ดอกชบา กุหลาบหินสีแสด หรือแม้แต่ต้นมะม่วง ที่ยืนท้าอากาศ
ต่างแย่งชูกิ่งก้านใบ จากต้นเล็กสู่ต้นใหญ่ เป็นป่าน้อยๆแสนสุข
...ผมโล้ชิงช้าเชือกป่าน ..เฝ้ามองดูอย่างรู้สึกอบอุ่น
ที่นี่..คือครอบครัวของผม ถึงแม้จะคับแคบ แต่ความรู้สึกเปิดกว้างเสมอ
เวลาเหงาๆ ผมชอบนั่งทอดอารมณ์อยู่เป็นประจำ....
...เมื่อเดินกลับเข้ามาในบ้าน คงไม่มีห้องสี่เหลี่ยมห้องไหนสวยงาม
เท่าห้องนี้อีกแล้ว โคมไฟเปลือกหอยที่ห้อยระย้า ส่องแสงนวลในเวลาค่ำ
เสียงเมโลดี้จิงกาเบล ดังมาจากกล่องดนตรีไม้หมุน รูปตุ๊กตาเด็กหญิง
นกไม้หลายตัวยังเกาะนิ่ง วางเท่อยู่ในแจกันเครื่องปั้นดินเผาเก่า
อีกมุมหนึ่งมีดอกกุหลาบทำมาจากแป้ง และช่อดอกคอร่า ลิลลี่
สีเขียวขาวในแจกันขวดใส มีโต๊ะไม้อย่างไทยๆ ที่วางเข้ามุมพอดิบพอดี
ถึงเวลาของกินก็ตั้งอยู่ตรงนั้น มีทั้งขนม...ผลไม้และอาหาร
หน้าประตูมีรูปของหญิงสาวผมยาว เลยถัดไปเป็นรูปคู่ของหนุ่มสาว
รอบๆตัวทำให้รู้สึกสดใส...อบอวลด้วยกลิ่นอายของความอบอุ่น
...ไม่ต้องร้องร่ำรำพันถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง หรือใครสักคนหนึ่ง..
เพราะรอบๆตัว สามารถอบอุ่นได้ หากถ้า..เรามีเวลาที่จะมอง
สิ่งที่อยู่ร่ายล้อม...และสักวันหนึ่ง...สักวัน..
ความรักจะเดินทางเข้ามา..ทักทาย..
ผมก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น....โอมเพี้ยง..ผมอธิษฐานเผื่อให้
กับทุกคนเลยนะ....