เป็นยังกับคาถาเสกเป่า
ทำให้ใครหลายคนต่างหลงใหล
เปลี่ยนดวงตามองภาพได้สดใส
มือจับมือ ก้อยเกี่ยวก้อย ไม่ห่างเหิน
ตลอดเส้นทางโปรยปรายด้วยรอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะ
ต่างหยุดวันเวลาให้อยู่กับที่
ให้เป็นอยู่อย่างนั้น ตอนนี้ แบบนี้
เพื่อจะได้เห็นใบหน้าแสนสวยและอบอุ่น
นี่ไงอัศจรรย์แห่งรักเมื่อแรกเริ่ม
ไปในทุกแห่งหนที่เธอต้องการ
มีน้ำใจกับคนชรา เด็ก และขอทาน
ขอเพียง..เธอเอ่ยปาก
จะเสกบันดาลทุกสิ่งอย่างได้
ร่วมทานอาหารที่เธอชอบสั่ง
ปลูกกุหลาบสีอย่างที่เธอโปรด
ยามที่ไม่ได้พบ เหมือนว่า
จวนเจียนจะวายปราณ
โอ้..ความรัก ใครๆต่างเรียกร้องหา
ใฝ่ฝันถึง...."
" ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันจะเลิกกับมัน"
" อ้าว! ก็เห็นหวานแหววดีออก"
"เออ แรกๆก็แหววดี แต่ตอนนี้แหวะว่ะ ผู้ชายเฮงซวย
วันแรกๆน่ะ พาฉันไปทั่ว ไปนั่งกินร้านโน้นร้านนี่
มืองี้จับไม่ยอมปล่อย แต่ดูตอนนี้จะข้ามถนน ยังเกือบถุกรถชนตาย
มันว่า ต่างคนต่างข้ามดีกว่า จะได้ไม่ตายคู่ แล้วฉันจะกินส้มตำปู
มันก็ว่าสกปรกพยาธิเยอะอย่ากินเลย จะไปนั่งร้านหรูหน่อย
มันก็ว่าไว้โอกาสพิเศษก่อนดีกว่า จะได้ดูแตกต่างจากทุกวัน
จะไปเที่ยวทะเล มันก็ว่าไปเดินเล่นปาร์คในห้างก็ได้ใกล้ๆ
จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ.. ดูมัน....และที่สำคัญ...
มันว่าไม่ต้องเจอกันทุกวันก็ได้ เพราะมันตั้งใจจะทำงานสร้างอนาคต
ยังไงๆกูก็จะเลิกกับมัน"
เจ้าหล่อนโผงเสียงลั่นเริ่มย้อนยุคเปลี่ยนสรรพนามตัวเองไปเสียแล้ว
ผมได้แต่ฟังเจ้าหล่อนเล่า..ถึงความอัดอั้นคันใจ โดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไร
พอยัยอิ๊งค์เดินจากไป เจ้าเป๊กแฟนของหล่อนนั่นแหละก็เดินเข้ามา
"โอ๊ย..เบื่อผู้หญิงว่ะ"
"อะไรของนายวะ"
"ก็ยัยอิ๊งค์น่ะซิ แรกๆนี่ยังไงก็ได้ พูดนิดพูดหน่อยก็หัวเราะ น่ารักสดใส
แต่เดี๋ยวนี้พูดผิดหูหน่อย ทำตาเขียวใส่ เวลานัดบอกว่าอย่ามาสาย ก็สายตลอด
ไปเดินห้างก็ดูแต่เครื่องสำอางค์เสื้อผ้า ทั้งที่เคยนั่งเล่นเกมส์กับข้าได้ทั้งวัน
พอจะดูบอลก็หาเรื่องคุยโน่นคุยนี่ ไปดูหนังในโรงก็เลือกแต่หนังปํญญาอ่อน
กุ๊กกิ๊กน่าเบื่อ ข้าเซ้งสุดๆ...แรกๆน่ะแล้วแต่ตัวเอง จะกินอะไร ก็แล้วแต่ตัวเอง
จะไปไหนก็แล้วแต่ตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้เหรอ จะกินไรทีต้องมาทะเลาะกันก่อน
ว่าจะกินอะไร ร้านไหน..เป็นนาย นายจะทนได้ไหม"
....เฮ้อ..นี่แหละครับ อัศจรรย์แห่งรัก