เงาไม้ทอดตัวยาวเหยียดบนพรหมหญ้าเขียว
ตริน...นั่งอยู่ตรงนั้น
เห็นเงาตัวเองทอดยาวไกลไปเช่นกัน
ดูสิ...ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสีอีกแล้ว
เมื่อครู่ฟ้ายังสีใส เผลอแผล็บเดียวกลับกลายเป็นสีส้ม
เข้มขึ้น..เข้มขึ้น...
วันหนึ่งกำลังหมดลงไป
เงาก็ไม่ได้เดินทางอีก
เตริน..ยังคงนั่งพิงไม้ใหญ่อยู่ตรงนั้น
ได้ยินเสียงแว่วๆของจั๊กจั่นเรไรดังมาจากที่ไกลๆ
เหมือนกำลังบอกว่าค่ำคืนกำลังกลับมาอีกหน
ทุกวันเป็นเช่นนั้น
ชีวิตวกวนไปวนมา
มีการเดินทางมีการหยุดพัก
เช่นเดียวกับเขา
เดินทางมายาวไกล
แต่เขายังไปไม่ถึงจุดหมาย
ความฝันของเขาหมดแรงลงระหว่างทางเสมอ
เด็กหนุ่มอย่างตริน..รู้สึกสับสนเมื่อพบทางแยก
ซ้ายขวาหรือตรงไป
หลายครั้งที่เดินทางกลับมาในทางเก่า
ทางเส้นนั้นคุ้นเคยเหลือเกิน เห็นอย่างชินตา
ถึงแม้จะรู้ว่าต้องพบเจอสิ่งใด
แต่เขาก็ยังชอบเดินอยู่บนทางเส้นนั้น
ทำไมถึงดูอดทนนัก
แต่ทำไมถึงดูอ่อนแรงเพียงนี้
.......................................
"ต้นไม้สลัดใบเผื่อผลิใบใหม่
จากดอกงอกเงยเป็นผล
ชีวิตน่าจะเป็นเช่นนั้น
ชีวิตที่รื่นรมย์
มีความรู้สึกเหมือนน้ำ
มีหัวใจเป็นอากาศ
และต้องอยู่ได้ด้วยตัวของตัวเอง"
.....................................
คิดได้ดังนี้น เด็กหนุ่มจึงเดินย้อนกลับมา
และได้พบกับถนนที่มีทางแยก
เขาต้องเรียนรู้กับสิ่งที่ผ่านมา..ในชีวิต
เพื่อจะตัดสินใจ..ที่จะก้าวเดินไปทางไหน
ผลักตัวเองสู่หนทางเบื้องหน้า
แม้อาจพลาดผิดล้มลง
แต่เขายังมีเรี่ยวแรงเดินย้อนกลับ
เพื่อตัดสินใจพาตัวเองสู่หนทางใหม่