แม่...แม่จ๋า
หนูง่วง..
หลับซิ..หลับที่ไหล่แม่นี่แหละ
..........
แม่..เห็นผมเป็นเด็กตัวน้อยๆเสมอ...
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเพียงใดก็ยังคงเป็นเด็กตัวเล็กๆในสายตาคู่อ่อนโยนนั้นของแม่
เติบใหญ่ด้วยข้าวสุก
ที่แม่หุงหามาให้ตั้งแต่ไหนแต่ไร..วันนี้ ก็ยังได้ยินเสียงแม่ ร้องเรียกเสมอ
"กินข้าวได้แล้วลูก"..
โตก็ป่านนี้ แม่ก็ยังร้องหา
เหมือนเดิม...ไม่ต่างจากตอนเป็นลูกน้อยเล็กๆ
สั่งสอนให้ผมเป็นเด็กดีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก
" แบ่งของเล่น...ให้น้องด้วยนะลูก....แน่ะลูกนี่...
ทำไมไปตีน้องแบบนั้น..แม่บอกให้แบ่งของเล่นไงลูก อ้าว ! ดู
หอบไปหมดเลย"
นั่นเป็นผมเองเมื่อตอนเด็กๆ....
" นี่ลูก ไปช่วยพี่เขากวาดบ้าน
ถูพื้นดีกว่ามั้ย ช่วยกันสนุกดีนะ"
" หนูยังเล่นหุ่นยนต์ไม่เสร็จเลย
จะไปช่วยพี่เค้าได้ยังไง"
นั่นตอนที่ผมอายุ 3 ขวบ เมื่อครั้งเยาว์วัย
ช่วงที่ผมเติบใหญ่ มีโอกาสได้คุยกับแม่หลายอย่าง
ตอนที่ยังเป็นเด็กน้อย
เอาแต่ใจ และไม่รู้จัก
ช่วยเหลือผู้อื่น.. แม่ยังเล่าอะไรให้ฟังอีกมากมาย.
ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า ผมจะเป็นแบบนั้น จะทำแบบนั้น
" อะไรอยู่ในมือลูก ไหนดูซิ "
" เปล่าฮะ
"
" แบ มือมาซิ.......ตายจริงนี่ลูกจับตั๊กแตนมาทำไม "
" หนูเห็น ลุงเขายังกินเลย หนูว่าจะลองดูซะหน่อย "
" ตายแล้วลูกฉัน "
เสียงโวยวายของแม่ในวันนั้น ผมยังจำได้อยู่เลย
จากนั้นแม่ก็พร่ำสอน
ถึงโลกของสัตว์ตัวเล็กๆ
ชี้ให้ดูรูปทั้งจากหนังสือ
และตัวจริงให้กับผม
ทำให้ได้รู้จักโลกของสัตว์น้อย โลกของพวกเขามากขึ้น...
หลายสิ่งหลายอย่าง...ได้เรียนรู้ก็เพราะแม่....ความขยันขันแข็งเวลาที่เห็นแม่ทำงาน
...ก็เข้ามาอยู่ในตัวผม ไม่ว่าจะความมีน้ำใจกับเพื่อนบ้าน
ก็ถูกถ่ายทอดมาด้วยเช่นกัน
" เออ..นี่คุณช่วยแบ่งพริกไปกินหน่อยนะ บ้านฉันมันขึ้นจนกินไม่ไหวแล้ว
ทิ้งไว้ก็แห้งไปซะเปล่าๆ "
" งั้นเดี๋ยวฉันแบ่งตะไคร้
ใบมะกรูดให้นะ มันขึ้นรกไปหมด "
"
แหม..กำลังต้องการอยู่พอดีเชียว เครื่องต้มยำเนี้ย "
นั่น..คือแม่ผม...ทำให้ผมรู้จักกับคำว่า... "แบ่งปัน"
แม่ก็คงเหนื่อยไม่น้อยกับลูกคนเล็กคนนี้....คนที่บางครั้งก็ดื้อดึง..เอาแต่ใจ..
ตอนเด็กๆก็ทำให้แม่ลำบากหลายอย่าง ทำงานหาเงิน ส่งลูกไปเรียนรู้หนังสือ
ตั้งแต่ ก เอ๋ย ก.ไก่ จนไปถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส...
ผมหมายถึงภาษา ที่ได้เรียน เอ บี ซี อา เบ เซ เด ...ก็เพราะแม่
ท่องสูตรคูณเป็นก็เพราะแม่...แม้แต่จะจีบสาวแม่ก็ยังสอน....
"
เอาน่ารักๆนะ..แม่อยากได้ลูกสาว"
ทั้งที่ลูกของแม่ก็เป็นผู้หญิงกันทั้งนั้น ก็มีแต่ผมคนเดียวที่เป็นผู้ชาย
แต่พอเวลาผ่านไปถึงได้รู้ว่า..แม่ห่วง..
ห่วงว่า..จะเป็นหญิงเหมือนพวกพี่ๆ ถึงได้อยากได้ลูกสาว แทนที่จะเป็นลูกชาย....
แม่ได้สอน...คำว่า.."ลูกผู้ชาย" ให้โดยที่ผมไม่รู้ตัว...เพราะของเล่นเมื่อสมัยเด็กๆ
ที่ยังคงเก็บไว้อยู่ในห้องนั้น มีแต่ของเล่นผู้ชาย
ตุ๊กตาเด็กผู้หญิง
หรือลูกหมีขนปกปุย...ไม่มีให้เห็นแม้สักตัวเดียว
แม่ห่วงใยเราเพียงใด..ทุกคนคงรู้ดี..ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น...
แม่ก็เป็นร่มเงา บังแดด กันฝน
ให้เราได้อบอุ่น...สอนเราให้ก้าวเดิน
และเดินอย่างตรงไปตรงมา...
คอยจูงมือเราไปในทุกที่
ที่เราหวาดกลัว เป็นแรงกำลังผลักเราไปข้างหน้า
...และไม่ว่าเราจะตัวใหญ่ สูงกว่าแม่เพียงใด
แม่ก็ยังคงมองเรา เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาตัวเล็กๆ
ที่แม่ยังห่วงใยอย่างไม่เสื่อมคลาย...
............
" ลูกจ๋า..
วันแม่นี้ เราไปกินกันที่ไหนดี "
" ประโยคนี้ ผมต้องเป็นคนพูดไม่ใช่เหรอแม่ "
นั่นแหละแม่ผม....ผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ...
........................