ตอนที่ 5 วัยรุ่นที่เป็นเด็ก
" มองลิบลิ่วแถวทิวพนา ไกล้ค่ำย่ำสนธยา กลุ่มชาวนาก็เลิกจากงาน คุณพ่อเดินหน้า ต่อมาก็คือแม่ท่าน ท่ายสุดก็คือแฟนฉัน เม่อก่อนนั้นรักปานจะกลืน เห็นเธอเดินผ่านนาของฉัน ผ่านทางนี้ทุกวันเคยสัมพันธ์รักกันหวานชื่น สัญญารักมั่นรักกันกับแม่ขวัญยืน ว่ารักจะไม่เป็นอื่น จะยั่งจะยืนไม่จากไม่จร "
ป. 5 ป. 6 สมัยนี้เป็นวัยรุ่น รักสวยรักงาม รู้จักเรื่องชู้สาวกันแล้ว..นั่นเป็นเพราะสมัยนี้ มีสื่อต่างๆถึงกันไวมาก โทรทัศน์ โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต ล้วนแต่สื่อถึงกันได้รวดเร็วทั้งสิ้น..สมัยก่อนนะเหรอ จดหมาย โทรเลข(เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว) ทีวีทั้งหมู่บ้านมีอยู่เครื่องเดียว เวลาจะดูต้องจ้างดู ที่พอมีก็คงจะเป็นวิทยุทรานซิสเตอร์เครื่องเก่าๆเครื่องหนึ่ง ใช้ฟังเพลง ฟังละคร ละครวิทยุสมัยก่อนนะที่ดังมากๆต้องนี่เลย คณะเกษทิพย์..ขอเสนอนิยายชีวิตรัก รันทด ของสาวชาวบ้านป่า กับหนุ่มเมืองกรุง..หรือนี่เลยรายการเพลงของคุณประจวบ จำปาทอง หรือรายการที่ฮิตอีกรายการต้องนี่ มัจจุราชที่มองไม่เห็นตัว จะเป็นเรื่องราวของอันตรายที่คาดไม่ถึง หรือที่มองไม่เห็น ซึ่งสามารถเกิดขึ้นมาได้ทุกเวลา วันหยุดเสาร์อาทิตย์นะ มีวิทยุเครื่องหนึ่ง มีข้าวห่อหนึ่ง มีควายฝูงหนึ่ง ไปแล้ว..." ทุ่งนาแดนนี้ที่มีความหมาย มีทั้งกลิ่นโคลนสาปควาย เห็นแล้วสบายอุรา ท้องนาที่รักนั้นมีทั้งฟางและรวงข้าว เห็นเคียวที่เกี่ยวเหน็บติดเสา และเงาใจเราสะท้อน " ก็ปล่อยให้ควายและเล็มหญ้าไป ส่วนเราก็มีกิจกรรมสนุกๆทำ ปีนต้นไม้เก็บลูกไม้กิน ลูกหว้า ลูกเดือย หมากขะยิง หรือ เล่นซ่อนแอบกับเพื่อนๆก็สนุก ไม่ก็นั่งฟังละคร ฟังเพลง ฟังไปร้องไปเป็น " หนุ่มทรานซิสเตอร์ ว่างนะเออรักฉันไหม รักกันไม่ผิดหวัง ร้องเพลงให้ฟังฉันก็พอใจ หัดร้องเพลงให้เก่ง ประกวดร้องเพลง วัดใหนเราไม่ไป " ( ร้องอย่างเดียว )
สมัยก่อน..เรียนมัธยมต้องเป็นวัยรุ่นกันแล้ว แต่ขอโทษที ยังแก้ผ้าเล่นน้ำกับเพื่อนๆอยู่เลย ถามว่าอายมั้ย..ก้อถอดทุกคนเลยไม่รู้สึกว่าอาย ก็สนุกสนานเฮฮาไปตามประสา ไม่เคยมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นเอาซะเลย ปอ 5 ปอ6 ก็แล้ว มอ 1 2 3 ก้อแล้ว อยู่มาได้ยังงัยก้อยังงงตัวเองอยู่เลย แต่จากการวิเคราะห์ของตัวเองแล้วเนี่ย สาเหตุน่าจะมาจาก...
1. การสื่อสารยังไม่ทันสมัย ทำให้ไม่คิดถึงเรื่องของวัยรุ่น
2. ต้องทำมาหากิน เลยไม่คิดถึงเรื่องนี้ เย็นมาก้อไปปักเบ็ด
หากับข้าว หาอาหารใส่ท้อง
3. ไม่ค่อยมีสิ่งเร้า ที่จะทำให้ตัวและใจของเราหันเหไปหาสิ่งเหล่านั้น
4. ตัวเล็กมากถึงเล็กที่สุด อาจเป็นสาเหตุทำให้การหลั่งของสาร
ที่เป็นวัยรุ่นช้ากว่าปกติ
5. การออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬาก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำ
ให้ไม่คิดถึงสิ่งที่วัยรุ่นควรคิด
ย่างเข้าสู่วันรุ่นจริงๆเลยก้อตอนอยู่ ม. 4 ที่รู้เพราะว่าไปหลงรักสาวคนหนึ่ง เป็นรุ่นน้อง เรียนอยู่ชั้น ม. 1 ชื่อ น้องแหม่ม บ้านน้องเค้าอยู่ใกล้โรงเรียน ส่วนผมมาพักอยู่ที่วัดแล้ว ตอนเช้าๆน้องเค้าก็จะเดินผ่านวัดเพื่อที่จะไปโรงเรียน.. ก็จะแอบดูด้วยความชื่นชม(ในความสวย)แบบวัยรุ่น จะเรียกว่ารักครั้งแรกก็ว่าได้ ไม่ได้พูดคุยหรอก ความที่ไม่กล้า ก็ได้แต่ แอบมอง สมกับเพลงที่ว่า " มอง เธอสาวเธอสวยฉันจึงได้มอง หากเธอไม่สวยฉันจะไม่มอง หากเธอไม่แจ่มฉันจะไม่จ้อง ฉันจะไม่มองให้หัวใจเต้น พักตร์เธอสวยแจ่มดั่งจันทร์เพ็ญ ฉันแทบช็อกตายเพราะใจเต้น ถ้าหากไม่เห็นฉันคงไม่มอง "
ม. 4,5,6 เป็นเวลา 3 ปีที่แอบมองก็ได้แค่นี้ ไม่มีอะไรในกอไผ่( นอกจากหน่อไม้และใบย่านาง) อายุ 20 ปีหลังจากจบ ม. 6 บางคนอาจจะบอกว่าอายุมากจัง ใช่มาก..ก้อหยุดเรียนไปปีหนึ่งเต็มๆ อายุเท่านี้สมัยก่อนโน้นอย่าคิดว่ามากนะ ยังไร้เดียงสา ยังอ่อนต่อโลกมากมายนัก กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าเมืองอมร เมืองหลวงของไทยเรา ยังรู้จักเฉพาะในตำรา นี่ก็กะว่าจะเป็นบ้านนอกเข้ากรุงดูซักหน่อย จะไปฝึกวิทยายุทธเพิ่มเติม..เรียนต่อ ส่วนจะเป็นยังงัยนั้น จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง โปรดติดตามตอนต่อไป...