26 พ.ย.2565
ไม่รู้ว่าฉันอาการหนักแค่ไหนแล้ว..ฉันอยากคุยกับจิตแพทย์นะ..แต่ไม่สามารถไปได้..ก่อนนี้ฉันเคยเข้าใจตัวเองและยังมีความภูมิใจในตัวเองอยู่บ้าง..แต่หลังจากที่ได้ไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆที่บริษัท..ฉันรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก..ท่ามกลางกิจกรรมที่(คนอื่น)สนุกสนาน..ฉันรู้สึกเหงามากๆ..เหงาท่ามกลางผู้คนสองร้อยกว่าคน..ฉันเข้าใจว่าตัวเองเข้าสังคมไม่เก่ง..แต่ความจริงแล้วฉันอาจจะเข้าสังคมไม่ได้เลยต่างหาก..ฉันไม่ใช่สไตล์สปอร์ตไลท์แมน..ตอนเด็กอาจจะขี้อาย..แต่ตอนโตเปลี่ยนจากอายเป็นความกลัวแทน..ภายนอกที่คนอื่นเห็น..ฉันอาจจะดูนิ่ง..ชิล..ไม่เดือดไม่ร้อน..หรืออาจดูเย็นชาบ้าง..แต่ข้างในฉันมันหวาดกลัวเสมอ..กลัวจนตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะกลัวอะไรนักหนา..พอต้องทำกิจกรรมกับคนหมู่มาก..ฉันเลยจะหายไปจากสปอร์ตไลท์แบบไร้ตัวตน..ถ้าไม่ถึงคิวฉันหรือไม่ได้บังคับว่าต้องทำทุกคน..ฉันจะไม่เปิดเผยตัวเลย..ตลอดสองวันที่ฉันอยู่ที่ค่าย..ฉันแทบไม่ได้พูดอะไรเลย..บทสนทนาคือคิดไม่ออกเลย..ด้วยความที่ในค่ายทีม staff เขาจะคละหน่วยงานเพื่อให้ทำความรู้จักกันในองค์กร..แต่เราไม่ได้ทำความรู้จักกับใครเพิ่มเลยแม้แต่คนเดียว..พอไม่ใช่เพื่อน..มันคิดบทสนทนาไม่ออกเลยไม่รู้จะชวนคุยอะไร..แต่ตอนเล่นเกมว่าแย่แล้ว..งานกลางคืนแย่กว่า..ฉันรู้สึกไม่มีที่ยืนเลยท่ามกลางผู้คนที่มีความสุขสนุกสนาน..ฉันเหงาแบบเหงามากๆ..เป็นช่วงเวลาที่แสนลำบากสำหรับฉันมากๆ
และหลังจากกลับมาแล้วรู้สึกเศร้าก็เพราะว่า..ฉันกลับมาแคร์สายตาของคนอื่นที่มีต่อฉันอีกแล้ว..กลัวว่าเขาจะคิดว่าเราน่าเบื่อ..กลัวว่าเขาจะมองว่าเราไร้ประโยชน์..กลัวว่าคนอื่นจะไม่ชอบที่เราเป็นเรา..พอเราไม่มีบท..สายตาของคนรอบข้างมันช่างดูหยามเหยียด..แบบที่ฉันเกลียดผู้คนเหล่านั้นเอามากๆ..พอๆกับหมดพลังในตัวเองเหมือนกัน..ความรู้สึกที่แคร์สายตาผู้คนเหล่านั้นมันทำร้ายฉันมากๆ..ฉันเคยมีความสุขตอนที่ฉันอยู่คนเดียว..แต่พออยู่กลางแจ้ง..ฉันรู้สึกเป็นกังวล..และหมดความมั่นใจ..หมดความภาคภูมิใจจากสายตาที่คนอื่นมีต่อฉัน