15 ธันวาคม 2566
ฉันอาจจะกำลังอยู่ในสภาวะอกหัก..ทั้งๆที่เป็นคนไม่มีแฟน..
เธอเป็นแค่คนแปลกหน้าที่จู่ๆก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตฉันทีละนิดๆ จนตอนนี้ฉันกำลังจะตายก็เพราะเธอ
ฉันเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ให้ใครเข้ามาสร้างความสัมพันธ์..ความสัมพันธ์ที่ว่าคือคนที่เราสนิทกันมากๆคนที่เราไว้ใจและมีกันและกันเป็นเพื่อนสนิทที่เวลาที่เขาไม่มาทำงานแล้วเราเหงานั่นแหละ..ฉันเคยมีความสัมพันธ์แบบนี้ในที่ทำงานเก่าจนเสียใจมาแล้วถึง 4 ครั้งและที่ทำงานที่ใหม่นี้ฉันเลยไม่อยากมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับใครอีก..ความสัมพันธ์ที่มีแค่ตัวเราเท่านั้นที่รู้สึก..หรือรับรู้ในการมีอยู่..เพราะภายนอก ฉันไม่เคยแสดงออกว่าเราต้องการเขา..คนทั่วไปที่มองมาก็จะเห็นว่าฉันเป็นคนชิลล์ๆไม่ยึดติดกับใคร..แต่ลึกๆแล้วฉันแทบจะขาดเขาไม่ได้..ฉันเป็นคนที่มีเพื่อนน้อย..จะไม่คบใครง่ายๆ..และถ้าฉันได้คบกับใครเป็นเพื่อนจริงๆแล้วล่ะก็..ก็แน่นอนว่าฉันให้ใจเขาไปเรียบร้อย..มอบความรัก..ความไว้ใจ..ความอุ่นใจสบายใจวางใจทุกอย่าง เป็นคนที่ทำให้ฉันมีความสุขในที่ทำงาน และมีแรงบันบาลใจที่อยากให้ไปทำงานในทุกๆวัน..
แน่นอนว่าคนเราทุกคนย่อมมีชีวิตเป็นของตัวเอง..มีเส้นทางเป็นของตัวเอง..มีทางเลือกที่ต้องตัดสินใจแตกต่างกันไป..เมื่อมาถึงวันนึงที่จะต้องเลือก..นั่นจึงเป็นจุดจบของความสัมพันธ์และสร้างบาดแผลในใจของฉันจนเจ็บปวดไประยะเวลาหนึ่งเพราะทุกครั้งพวกเขาจะเป็นคนเดินจากฉันไป..และเป็นฉันที่ถูกทิ้งอยู่ที่เดิมครั้งแล้วครั้งเล่า..ความจริงตอนที่ฉันเสียใจตั้งแต่ครั้งแรก..ฉันก็ตั้งใจว่ามันจะไม่มีครั้งที่สองแน่..เพราะฉันมั่นใจว่าสามารถควบคุมทุกอย่างได้..ควบคุมความรู้สึกที่มีให้คนอื่นแบบที่รู้ว่าขอบเขตอยู่ตรงไหน..ถ้าก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไป..มันจะเริ่มเสี่ยงและเป็นอันตรายกับจิตใจฉัน..ฉันคิดว่าฉันรู้ตัวดี
แต่แท้จริงแล้ว..ฉันไม่สามารถทำมันได้สักครั้ง..ฉันควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย..เพราะคนที่ใช่คนที่คลิกกันแล้วแค่มองตาก็รู้ใจ..มันก็มักจะก่อเป็นความสัมพันธ์ขึ้นมาเองโดยที่เราไม่รู้ตัว..จากครั้งที่หนึ่งเป็นครั้งที่สองจากครั้งที่สองเป็นครั้งที่สาม..โดยแต่ละครั้งที่ฉันผ่านความเจ็บปวดจนฮิลใจตัวเองกลับมาได้แล้ว..กำแพงที่ฉันสร้างไว้ในแต่ละครั้งมันก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ..ดังนั้นคนต่อๆไปที่สามารถมาทำให้ฉันยอมมีความสัมพันธ์ด้วย..ย่อมมีมาตรฐานและความพิเศษเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ..ความรักที่เรามีให้เขาเลยเพิ่มขึ้นตามเลเวลของกำแพง..เวลาถูกผลักให้ตกลงมา..ฉันเลยไล่ระดับความเจ็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ..แต่ทั้งหมดที่เล่ามามันเป็นแค่อดีต..อดีตที่ฉันจะจำไว้ไม่ให้เกิดกับที่ใหม่ที่ฉันมาเริ่มต้นมีชีวิตใหม่บ้าง
แต่การไม่มีเพื่อนในสถานที่ใหม่..มันน่าเศร้ากว่านะ..ฉันจากที่เก่ามาด้วยผู้คนที่น่ารัก..เพื่อนร่วมงานที่ดี..หัวหน้าที่ใจดี..เพื่อนสนิทที่รู้ใจ..สถานที่ทำงานก็สวยน่าอยู่..แต่พอมาที่ใหม่นี้..ฉันแทบไม่เหลืออะไรสักอย่างให้ติ๊กถูกเมื่อเทียบกับที่เก่า..แต่ฉันเลือกมันแล้ว..และฉันต้องอดทนและอยู่ให้ได้..
ทุกวันที่ฉันไปทำงานฉันต้องเจอกับคนที่ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนในชีวิต..ฉันโตมาด้วยทุ่งลาเวนเดอร์..ผู้คนที่อยู่ในวงโคจรของฉัน..มักจะใจดีกับฉันเสมอ..ฉันจึงเคยชินกับการที่คนอื่นจะรักและให้เกียรติฉัน..แต่พอมีคนที่มาทำใจร้ายกับเราแม้เพียงนิดเดียว..ใจฉันก็แทบแตกสลาย..หัวใจฉันมันอ่อนแอกว่าคนอื่นที่เขามีเกราะป้องกันหลายเท่า..หัวใจฉันเป็นหัวใจเปล่าๆที่เมื่อมีคนพูดไม่ดีด้วยมันเหมือนมีดที่เสียบมาที่หัวใจฉันสดๆ..แต่สิ่งที่ฉันเจอคือมันอาจจะมากกว่าคำพูดที่ไม่ดีพวกนั้น..ฉันต้องเจอกับกิริยาที่ไม่ให้เกียรติ..ต้องคอยดูอารมณ์ของเขา..ฉันต้องอยู่กับคนโมโหร้ายตลอดเวลาทุกวัน..อยู่ด้วยความหวาดกลัว..กังวลใจ..และเศร้าใจกับเขาสองคนเพราะเขาเป็นหัวหน้าและคนสอนงานฉัน..ฉันเคยสงสัยว่าฉันทำอะไรให้เขาไม่พอใจอะไรนักหนา..ถึงแสดงกิริยากับฉันแบบนั้น..ปกติเขาก็เป็นคนขี้โมโหเอาแต่ใจนั่นแหละ..แต่เวลาอารมณ์ดีก็เฮฮาน่ารัก (กับคนอื่น) เสมอ..ยกเว้นฉัน..แม้จะอยู่ในอารม์ที่สนุกเฮฮาแต่พอหันมาพูดกับฉันหรือมองมาที่ฉันมันถึงได้แตกต่างกันคนละโลกแบบนั้นล่ะ..พอคนที่ไม่เคยพูดดี..มาพูดดีทำดีด้วยนิดหน่อย..ฉันก็ลืมทุกอย่างและให้อภัยในเรื่องแย่ๆที่ผ่านมาของเขาไปในพริบตา..ฉันชอบที่เขาใจดี..แต่เป็นการใจดีวันต่อวัน..เมื่อวานเขาน่ารักใจดีมากๆคุยกันเหมือนสนิทกันแล้ว..แต่เช้าวันรุ่งขึ้นเขากลับกลายเป็นคนใจร้ายคนเดิมเหมือนเรื่องเมื่อวานไม่เคยเกิดขึ้น..เรื่องงานก็เครียดอยู่แล้ว..ยังมามีเรื่องท้อแท้ใจอะไรแบบนี้อีก..ด้วยความที่ฉันยังใหม่..งานหลายๆอย่างฉันก็ไม่เคยทำมาก่อน..ซึ่งยังต้องขอความเห็นหรือคำแนะนำจากเขาอยู่..ฉันมีข้อสงสัยเยอะแยะมากมายที่อยากจะถาม(ในเรื่องงาน) แต่ฉันจะหันไปถามเลยไม่ได้..ถ้าเขาไม่พร้อมคุย..หรือดูแล้วยังหงุดหงิดอยู่..ฉันก็จะเก็บไว้ก่อน..รอจังหวะดีๆแล้วค่อยถาม..อาจด้วยเพราะฉันเป็นคนขี้กลัวด้วย..ฉันเลยไม่ชอบปะทะ..หรือไม่ชอบคุยกับคนที่เขากำลังอารมณ์ไม่ดี..แต่ฉันอาจจะกลัวไปเอง..เพราะถ้าเป็นเรื่องงาน..เขาจะแยกแยะและสอนงานฉันดีเลยแหละ..และนอกจากความเครียดจากเรื่องงานและหัวหน้าแล้ว..ตลอดทั้งวันฉันแทบไม่ได้คุยกับใครเลย..ด้วยความที่ฉันเป็นคนใหม่..เลยปรับตัวเข้ากับคนอื่นไม่ได้..แม้ทุกคนในห้องจะน่ารักเฮฮาและเป็นกันเองแค่ไหน..ฉันก็ยังไม่กล้าคุยท่ามกลางวงสนทนานั้นอยู่ดี..แต่ถ้าคุยกันตัวต่อตัวเราก็คุยกับพวกเขาได้ตามปกติไม่ได้ผิดใจหรือบาดหมางกับใครเหมือนจะคุยเก่งด้วย..แต่ถ้าวงสนทนาใหญ่ๆถ้าไม่มีชื่อฉันหรือเรื่องราวของฉันอยู่ในนั้น..ฉันก็จะไม่พูดอะไรสักคำ..จนวันทั้งวันฉันดูเหมือนจะไม่ได้พูดอะไรกับใครเลยนอกจากเรื่องงาน..อยู่ที่นี่ฉันไม่มีเพื่อนสักคน..ไม่มีคนที่ฉันพอจะกล้าคุยเรื่องทุกข์ใจหรือระบายอะไรได้เลย..ฉันอยู่ที่นี่ด้วยความอึดอัด..อึดอัดจากผู้คนและอึดอัดจากสถานที่ที่ไม่สะดวกสบายและสวยงาม..ทุกอย่างมันผสมปนเปอัดอั้นพาลมั่วไปหมด..ฉันรู้สึกว่าฉันอยู่ผิดที่..ฉันเป็นตัวประหลาด..ฉันขี้อาย..ฉันเข้าสังคมไม่เป็น..ฉันโดดเดี่ยว..ฉันไม่มีใคร..ฉันไม่อยากมาทำงาน..แต่ด้วยค่าตอบแทนที่สูงและอยากได้ประสบการณ์ความรู้ในงานฉันเลยมีชีวิตด้วยความขมขื่น..กล้ำกลืน..และชาเลนจ์เวเวลความอดทนตัวเองอยู่ทุกวัน
ฉันมีชีวิตอยู่แบบนี้เกือบหกเดือน..ฟังดูมันก็ไม่นาน..แต่สำหรับฉันมันคือ 180 วันอันแสนทรมาน..แต่ละวันที่ผันผ่าน..ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่ท้อแท้ไม่อยากไปทำงาน..กลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยหน่ายใจและเศร้าใจ..ฉันไม่มีความสุขและความภาคภูมิใจพกกลับมาบ้านเลย..มีแค่ความเหงาและความเศร้าลึกๆกัดกินใจฉันอยู่ทุกวัน
จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างและนโยบายบริษัท..พวกเราได้เปลี่ยนสถานที่ทำงานโดยอยู่ภายใต้บริษัทเดิม..ฉันจึงได้มีโอกาสไปเจอผู้คนใหม่ๆจากหลายๆที่..ที่ทำงานแบบเดียวกัน..ทุกๆคนต่างเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกัน..ที่ถูกจับมาอยู่ด้วยกัน..แต่น่าแปลกที่ฉันชอบที่นี่มาก..ฉันได้หัวหน้าใหม่..และได้เพื่อนร่วมงานใหม่..หมายถึงทุกคนได้หัวหน้าใหม่และเพื่อนร่วมงานใหม่กันหมด..แต่ละคนถูกจับแยกตามภาระงาน..ดังนั้นเท่ากับว่าทุกคนถูกรีเซตกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่กันทั้งหมด..ต้องเริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนโต๊ะข้างๆเพื่อนในทีมหรือผู้บังคับบัญชาคนใหม่..แรกๆฉันก็มีระวังและมีขีดเส้นไว้บ้าง..แต่ด้วยความที่อาจจะเก็บกดจากนรกที่เคยอยู่มานาน..ฉันก็เลยเผลอตัวและยินดีจะมีไอ้ความสัมพันธ์ตัวร้ายที่พูดถึงมาตลอดเข้าจนได้..
'ความสัมพันธ์' ครั้งนี้มันมากกว่าครั้งไหนๆ..ชีวิตนี้เหมือนไม่ใช่ของตัวเอง..เหมือนกับฉันได้มอบลมหายใจใส่มือ'เธอ' คนนั้นไปหมดแล้ว..ฉันมีความสุขในทุกๆวันที่เราได้เจอกัน..แน่นอนว่าเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเฉยๆ..แต่ความรู้สึกของฉันมันไปผูกติดไว้ที่เธอไปเรียบร้อยแล้ว..นับวันเรายิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ..ฉันเคยพูดกับแม่ว่าช่วงเวลานี้ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย..ฉันเป็นเอามากขนาดที่ไม่ชอบวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และเกลียดเข้าไปอีกคือวันหยุดชดเชยที่ติดต่อกันหลายวัน..เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้เจอกัน..ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลา..เธอเป็นคนเดียวที่เปลี่ยนเช้าวันจันทร์ของฉันให้เปลี่ยนไป..ตั้งแต่เด็กเข้าโรงเรียนประถม มัธยม มหา'ลัย หรือช่วงวัยทำงานฉันจะเกลียดวันจันทร์ที่สุด..มันให้ความรู้สึกหวิวๆทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนโหมดจากเย็นวันอาทิตย์เป็นเช้าวันจันทร์..แต่ตั้งแต่มีเธอเข้ามา..ฉันดีใจที่เช้าวันจันทร์มาถึงสักที..ฉันแค่อยากเห็นหน้าเธอ..อยากเล่นกับเธอ..อยากแกล้งเธอ..ฉันชอบที่เธอยอมให้ฉัน..เพราะฉันก็ยอมแค่เธอ..ความรู้สึก 400 วันมานี้ฉันมีความสุขแบบเท่าทวีเพิ่มขึ้นทุกวันๆ..จนพูดได้ว่าตอนนี้ฉันรักเธอมากๆ
และเพราะเป็นแบบนั้น..ตอนนี้ฉันถึงได้เจ็บเจียนตายขนาดนี้..ในวันที่เธอ...