วันนี้เลิกงานแล้วก็เตรียมตัวไปโบสถ์ตอนเช้าเหมือนทุกทุกสัปดาห์แค่เข้านี้รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยเพราะไม่เจอผู้สอนศาสนาที่โบสถ์เห็นว่าไม่สบายนะ ทำให้นึกถึงตนเองเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนนี้รับใช้อยู่ที่ลพบุรี ไม่เคยป่วยอะไรหนักนี้มาก่อนเลย ไม่มีแรงออกไปสอนอาจจะป่วยสะสมก็ได้ ทุกข์ทรมารมาก ทำให้นึกถึงการเสียสละของพระคริสต์ในหลายสถานการณ์ เช่นการอดอาหาร 40 วัน การตรึงกางเขน และการเสียสละอื่นๆของพระคริสต์
สำหรับวันก็มีพี่สลัดเดินทางมาเยี่ยมกาฬสินธุ์จากมหาสารคาม ตามทำเนียมของสภาสูงท่านก็มีข่าวสารที่เอามาฝากสมาชิกสาขา ท่านก็พูดอยู่หลายเรื่องนะ เรื่องที่พอจำได้ก็น่าจะเป็นการยกคำพูดของ ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงกลีย์ ศาสดาพยากรณ์ที่ล่วงลับไปแล้วเมื่อหลายปีก่อนเป็นอุปทมาเรื่องรถไฟ เพราะท่านเคยทำงานที่การรถไฟมาก่อน ท่านเปรียบเทียบว่า เราทุกคนก็เหมือนกับคนกำลังนั่งรถไฟ ตอนรถไฟกำลังออกเดินทางมีคนเยอะแยะมากมายอยู่รถไฟแต่ระหว่างทางก็มีคนทะยอยหายไปเรื่อยๆ ตามสถานีต่างๆที่รถไฟผ่าน กว่ารถไปจะไปถึงปลายทางก็เหลือเพียงไม่กี่คน ในฐานะสมาชิกของศาสนจักรเราอยู่จนรถไฟไปถึงปลายทางหรือเปล่า เป็นคำพูดที่ประทับใจมาก
อีกเรื่องก็คือเรื่องของการทำงานเพราะข้าพเจ้าเองก็เหนื่อยนะทำงานหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์แต่ก็ได้ยินท่าน(ประธานสลัด)พูดถึงการมีชีวิตที่สมดุล จะทำให้เรามีความสุขมากกว่า เป็นการพูดที่ไม่ได้มีอะไรมากแต่ทำให้ข้าพเจ้าเห็นแสงสว่าง
ช่วงบ่ายเป็นการเดินทางไปที่ จังหวัดร้อยเอ็ด พี่ถี่ออกปากชวน ก็เลยไปซะหน่อยไม่ได้ไปที่ร้อยเอ็ดมานานแล้ว ก็พาสมาชิกท่านหนึ่งไปตรวจสอบบัญชีของศาสนจักร ขากลับก็แวะกินส้มตำหน้าโบสถ์ซะหน่อยก็อร่อยอยู่นะ และก็เดินทางกลับกาฬสินธุ์ต่อเพื่อมาพักผ่อนเตรียมตัวทำงานในตอนเย็นต่อไป