วันนี้ก็เตรียมตัวตอนเช้า ออกกำลังกาย ช่วงเช้า กินอาหาร เช้า และช่วงสายๆก็เดินทางไปโบสถ์ วอร์ดปาไซ ที่ห้า ในเขตมะนิลา อันที่จริงมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆนะที่ได้เดินทางมาที่นี่ ซึ้งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้กลับมาทำงานที่นี้อีกครั้ง ถือว่าพระเจ้าตอบคำสวดอ้อนวอนแก่เราแล้ว และเป็นประสบการที่เปลี่ยนอุปนิสัย อย่างถาวาร เรื่องการความคุมความกลัวของเราเอง ต่อไป ก็คงเป็นเรื่องอาชีพการงานแล้วละ ว่าจะเอาแบบไหนกับชีวิต
ช่วงบ่ายๆก็เป็นประสบการที่ดีอีกอย่าง หลังเลิกโบสถ์ก็เดินทางไปขึ้นรถไฟฟ้า เอ็มอาร์ที ที่มะนิลา น่าตื่นเต้นอีกมาก ที่ได้เห็นวิถีชีวิตของคนในเมืองหลวงที่มะนิลา จริงๆ เพราะคนแน่นมาก กับขนวนรถไป แคบๆ แต่ต้องแออัดกันเหมือนปลากระป๋อง เป็นความแอร์อัดที่มาพร้อมกับการดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตนเอง และตั๋วฟรีอีกด้วย ถ้าให้ออกไปเห็นวิถีชีวิตของเขาอีก ก็คุ้มนะ เพราะข้าพเจ้าเองก็คิดว่าอาจจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว เพราะอายุนาจะเกินเกณฑ์ ที่เขากำหนดแล้ว ฉะนั้นช่วงนี้ก็คงเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของชีวิตในต่างแดน และเวลาก็พลบค่ำคงต้องรีบกลับไปที่ต้นทางสถานี Tafe Station เพื่อไปตามนัด กับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ ครอบครัวหนึ่ง เพื่อไปทานข้าวกัน เพราะสองอาทิตย์ ก่อนเขามีน้ำใจช่วยเหลือข้าพเข้า พาไปตัดผม มาส่งที่บ้านแถมฝนก็ตกอีก ก็อยากจพตอบแทนน้ำใจเขาเล็กๆน้อยก็เท่านั้น และเราไปท่านหมูกะทะกันที่ร้าน สวัสดีหม้อ ที่ปาไซนั้นแหละ ไม่ไกลจากออฟฟิศเก่าเท่าไหร่ อาหารก็ค่อนข้างจะสูงอยู่แต่ไม่เป็นไร และภรรยาของเขาพูดกับข้าพเจ้ามากขึ้น ชื่อ ซิสเตอร์ จอย มั้ง ขัาพเจ้าดีใจที่เป็นมิตรกับครอบครัวเขามากขึ้น และแล้ววันหยุดก็หมดแล้ว เขาก็เดินทางมาส่งข้าพเจ้าที่บ้านพัก แถวๆ bayviwe international และเราก็แยกย้ายกันกลับที่พักของตน