เรื่องสั้น
(อยู่ในช่วงปรับปรุงไดอารี่นะคะ)
ที่ทำงานของเราร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นสน
ทุกๆวันในเวลาเช้าๆ
เราทุกคนจะไปรวมตัวกันตรงจุดเดิมเพื่อทำหน้าที่ของเรา
ต้นสนมีมากมายปลูกไว้เป็นลาน
เวลาลมพัดผ่านใบสนทุกครั้งจะมีเสียงเกิดขึ้น
ฉันชอบเสียงนี้จริงๆ เสียงใบสนต้องลม
ยิ่งฤดูกาลนี้เป็นฤดูหนาวสายลมยิ่งพัดกรูกราว
ทำให้หนาวสะท้าน
ตัดกับเสียงแล้วละก็
ยากจะอธิบายว่าหลากหลายความรู้สึกแค่ไหน
เวลาที่เราอยู่รวมกันเยอะ
เสียงนี้ทำให้รู้สึกดีมากๆ ฟังแล้วสดชื่น
แต่เคยมีที่ครั้งหนึ่งซึ่งเป็นวันหยุดมีภาระกิจที่ต้องทำที่นี่
แต่ไม่มีเพื่อน
ฟังเสียงลมพัดผ่านยอดสน
แต่กลับรู้สึกวังเวงในใจอย่างไรชอบกล
ก็แปลกนะหรือใจของเรากันแน่นะ
ที่ชอบปรุงแต่งโน่นนี่ในจิตใจของเราเอง
ทำให้รู้สึกอะไรๆไปต่างๆนาๆ
วันนี้สายลมมาเยือนตลอดทั้งวัน นั่งอยู่ใต้ร่มสน
ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อนร่วมงานมากมาย
จึงรู้สึกดีและสดชื่น
ที่ได้ยินได้ฟังเสียงลมพัดสน แน่นอนแล้วว่า
ใจไม่อยากจะฟังเพียงลำพัง
ด้วยเกิดอคติกับสิ่งที่เคยสัมผัส
แต่ถึงอย่างไรก็ชอบเสียงลมพัดสน ชอบต้นสนที่สุด
มีคนบอกว่าต้นสน
คือต้นไม้ที่มีความหมาย
ที่บ่งบอกความสำคัญ
ใบสนที่ดึงขาด
ยังสามารถเอามาต่อติดกันใหม่ได้
เอ...แล้วกับความรักที่ถูกผลักใส
จะสามารถต่อติดใหม่ได้เหมือนกัน
หรือเปล่านะ
คิดเอยเจ้าถึง
คำซึ้งๆจากใจในความหมาย
สนลู่ลมหนาวสะท้านผ่านผิวกาย
ในความหมายเตือนย้ำลำนำกาล
ดวงตะวันลาลับไปกับทิวสนอย่างงดงาม
ทิวสนเอน...โอนเอียง...ไปตามแรงลม
และแล้วดวงตะวันกลม
ค่อยๆ คล้อยลงให้ทิวสนได้ชื่มชมความงาม
ไม่ทุกวันที่ตะวันลาจะสงบงามเช่นนี้
สงบและสวยงามเพื่อบอกลาวันดีดีอีกวัน
ที่จะผ่านไป
สนต้องลม