...
จำได้ว่า..ตอนเด็กๆ
นั่งซ้อนท้ายจักรยานของแม่ไปโรงเรียน
แล้วแม่ก็ชอบร้องเพลงไห้ฟังไปตลอดทาง
บางวันก็ร้องจบเพลง บางวันก็ไม่จบ เพราะแม่กลัวจะไปส่งโรงเรียนสาย
เลยต้องรีบปั่นจักรยาน...บางทีโซ่หลุด เบรคแตก จักรยานล้ม
แต่ผมก็ไม่เคยเป็นอะไร..เพราะแม่เป็นผู้พิทักษ์อย่างดี
พอถึงตอนเที่ยง แม่จะเอากล่องข้าวร้อนๆมาเสริฟให้ถึงที่โรงเรียน
ไม่ต่างจาก Pizza KFC
แม่เดลิเวอรี่...เป็นเช่นนี้อยู่นานจนจบประถม..
ผมโชคดีได้กินข้าวกับแม่ทุกมื้อ และเป็นฝีมือของแม่ล้วนๆ
ไข่ต้มลูกโตสีขาวจั๊ว..คือพลังอันยิ่งใหญ่ของผม
แต่แม่กลับบอกผมว่า..ผมคือไข่ต้มลูกโต
ในตอนนั้นผมได้แต่หัวเราะ
ถึงวันนี้ผมถึงเข้าใจว่า..ความรักของแม่ใหญ่ยิ่ง
และผมเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ของแม่เช่นกัน
...
บ้านของผมอยู่ห่างออกไปจากเมือง
เป็นบ้านห้องแถวไม้เก่าๆ เป็นที่หลบฝนกันแดดมาตั้งแต่ผมจำความได้..
หยาดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่มักเห็นอยู่ตามใบหน้าของแม่
กับท่าทีที่ไม่คยอยู่นิ่ง เป็นภาพที่ผมเห็นเป็นประจำ
เวลาแม่ปาดเหงื่อ แล้วหันมาทำหน้าแปลกๆ ..ผมจะหัวเราะคิกๆ
เป็นการละเล่นอย่างง่ายๆ..ที่แม่พอมีเวลาเล่นด้วย
แม่...ไม่เคยสอนการบ้านผม..A B C D แม่ก็ไม่รู้จัก
แต่เรื่องซื้อมาขายไป กี่กิโลกี่ขีด กำไรขาดทุน
ต้องยกให้ เป็นตัวแม่เศรษฐศาสตร์
...
ด้วยความขยัน บากบั่น ทำให้แม่มีบ้านเป็นของตัวเอง..
พร้อมๆกับส่งผมให้เรียนจนจบ และมีงานทำ
แต่เหงื่อของแม่ก็ไม่เคยหายไปจากใบหน้า
ผู้หญิงที่ใจดี ยิ้มง่าย..ทำงานไม่เคยหยุด
นำพาชีวิตหนึ่ง..เดินทางมาได้ไกลเพียงนี้
...
ผู้หญิง..
ที่เป็นผ้าห่มให้ผมซุกเวลาหนาว
เป็นหมอนนุ่มๆให้หนุนเวลาเหน็ดเหนื่อย
เป็นสายลมโอบกอด เวลาที่รู้สึกท้อแท้
เป็นแสงแดดที่เข้าอกเข้าใจดอกไม้..
เป็นกระทั่งป่าเขาธนาคารที่คอยเก็บกักน้ำ
และทั้งหมดที่แม่เป็น...ก็เพื่อผม....
ผมเชื่อว่า..
ในโลกใบนี้ผู้หญิงที่เป็นแม่..เหมือนกันทั้งหมด
....