10/10/2561
วันนี้ฉันคิดว่าฉันคงเจออะไรที่ตลกสิ้นดี..มันตลกแต่ขำไม่ออกเลยแฮะ..ตลกแบบเฮ้ยคิดได้ไง..เอาจริงดิ..เธอคิดแบบนี้จริงๆเหรอ..พอได้ยินแล้วมันก็ปวดใจอยู่นะ..ปวดใจแค่ไหนอ่ะเหรอ..ปวดใจจนอยากจะจุดไฟเผาที่ทำงานให้มันสิ้นซากไปพร้อมกับคนเฮงซวยแบบ*ไปเลยล่ะ..
ต่อไปนี้ฉันอาจจะหยาบคายนิดหน่อย..อาจโดนเซ็นเซอร์จนอ่านไม่รู้เรื่องเลยก็ได้
มันอาจจะเป็นมุมมองของฉันคนเดียว..ฉันรู้..แต่ฉันแค่โมโห..
เขาบอกฉันว่า..หัดไปเรียนรู้งานส่วนของเขาและเอางานของเขาไปทำซะบ้าง..
ขอโทษนะทุกวันนี้กูอยู่เฉยๆมั้ง..กูเหมือนคนไม่ทำห่าอะไรเลยใช่ไหม..งานของสองคนเรามันคืองานเดียวกัน..มีเท่าไหร่ก็แบ่งกันทำเท่ากัน..และ*แค่มีงานเสริมขึ้นมาอีกชิ้นนึงที่ได้รับมอบหมายมาตั้งแต่*เข้ามาใหม่แรกๆ..ในขณะที่กูมีแค่งานนี้งานเดียว..สิ่งที่*โมโหและฝังใจตลอดมาคือ..*ชอบถามว่าทำไม*ต้องได้ทำงานชิ้นนี้ด้วย(งานที่เพิ่มขึ้นมา) *จะมาเปรีบยเทียบกับกูทำไม..ตอนเขารับกูมากูมันแค่เด็กจบใหม่..ส่วนตอน*มา*จะสามสิบแล้ว..ก่อนที่เขาจะมอบหมายงานเขาเห็นถึงความสามารถและประสบการณ์ของ*รึเปล่า..คิดบ้างสิ..จะมาเกี่ยงกูทำไม..และที่*ได้ทำงานสองชิ้นกูก็เข้าใจ..งานของ*กูช่วยเท่าที่จะทำได้นั่นแหละ..อะไรที่*โยนมาให้กูก็เอามาช่วยตลอด..แต่*คงจำห่าอะไรไม่ได้สินะ..รู้แค่ว่างานของ*มันยิ่งใหญ่มากงาน*มันมากมายมหาศาล..ส่วนอะไรที่*โยนมาและมีคนคอยช่วย*คงไม่จำหรอก
แล้วถ้า*คิดว่า*มีงานสองชิ้นแล้ว*จะได้ทำงานสองเท่าล่ะก็..บอกไว้เลยว่า*เข้าใจผิดนะ
งานส่วนที่ต้องรับผิดชอบร่วมกันที่บอกว่ามีเท่าไหร่ทำเท่ากันนั่นน่ะ..จริงๆแล้วมันไม่เท่าหรอกนะ..รู้ได้ไงอ่ะเหรอ..ก็กูเป็นคนแบ่งเองไง! กูรู้ว่างานมีเท่าไหร่แล้วใครได้ทำเท่าไหร่..ก็เพราะเฉลี่ยให้*เอาเวลาไปทำงานอันยิ่งใหญ่ของ*นั่นแหละ..งานทางนี้กูแทบจะรับผิดชอบเองทั้งหมดอยู่แล้ว..แล้วหลายคนคงจะคิดว่า..ก็ถูกแล้วนี่คนสองคนต่างคนต่างทำงานคนละชิ้นไม่แฟร์ตรงไหน..เอางี้จะอธิบายแบบเข้าใจง่ายๆนะ..อย่างที่บอก..งาน*มันแค่งานเสริม..ปริมาณนิ๊ดดดเดียวเท่านั้น..นิดเดียวจริงๆ(แต่เล่นโหญ่โวยวายเหมือนเป็นพันๆเปย์เมนต์) ส่วนงานหลักของเราถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ทีมเรายังอยู่ครบต้องใช้คนตรวจทั้งหมดหกคน..แต่ตอนนี้เหลือสอง..เหลือแค่ฉันกับแก..อ่อแล้วมีเอาท์ซอร์สอีกคน..คนที่สงสัยเห็นถึงความแตกต่างของปริมาณงานไหม..งานหลักมีเป็นพันเคลมที่ต้องตรวจให้เสร็จภายในวัน..แต่งานเสริมมีไม่ถึงยี่สิบ..แค่มันต้องทำในเวลาเร่งด่วน..อันนี้ก็เห็นใจและเข้าใจอ่ะนะว่าลำบากที่มีคนมาเร่งงาน..แต่ก็บอกไปแล้วนั่นล่ะว่าฉันเป็นคนคุมงานหลัก..ถ้าวันไหนเห็นเธอยุ่งฉันก็จะแบ่งให้เธอนิดเดียวหรือบางวันไม่แบ่งงานหลักให้เธอเลย..ถ้าวันไหนงานเธอไม่เยอะฉันถึงจะแบ่งให้ช่วยกันทำบ้าง..อย่างเช่นวันนี้ที่งานหลักมันมาเยอะ..แล้วฉันก็เห็นว่าเธอว่างพอจะสามารถช่วยฉันตรวจได้..เลยแบ่งงานให้เยอะหน่อย..แทบจะเท่ากับของฉันเลยก็ว่าได้..ก็ถูกแล้วงานเยอะก็ต้องช่วยกัน..แต่ดูเหมือนจะมีคนบางคนไม่พอใจนะ..ที่เมื่อวานอารมณ์ดีชิลๆ..เพราะกูไม่ได้แบ่งงานให้..แต่พอวันนี้ยกงานไปให้..เริ่มสะบัดสะบิ้งใส่..อยู่ดีๆก็ไม่คุยด้วย..หนักสุดก็ตวาดใส่..เฮ้ย*เป็นอะไร..ไม่ใช่ว่า*อารมณ์ไม่ดีที่จะพาลกับทุกคน..โนจ่ะ..*คุยดีอารมณ์ดีเว่อร์กับทุกคนแต่พอกูเรียก*หน้าบึ้งแล้วสะบัดเสียงใส่..จะเอายังไง..จะไม่ทำใช่ไหมงาน..หรือกูต้องเอางานเสริมห่าเหวของ*มาทำให้ด้วย*ถึงจะพอใจ..สิ่งที่เธอทำฉันเห็น..แต่สิ่งที่ฉันทำดูเหมือนเธอจะไม่เคยเห็นเลยนะ..การที่ฉันแทบจะรับผิดชอบงานหลักเองทั้งหมดคนเดียว..หรือการที่สองอาทิตย์ที่ผ่านมา..มาจนถึงวันนี้ที่ฉันอาหารเป็นพิษอ้วกแล้วอ้วกอีก..แต่ก็หอบสังขารไปทำงานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ..เพื่อไม่ทำให้เธอเดือดร้อน..มันยังไม่พอใช่ไหม..แม้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังไม่สบาย..และรู้ว่าร่างกายฉันไม่ไหว..ฉันก็กลับไปก้มหน้าก้มตาทำงานในส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบจนแทบจะตายห่าคาบริษัทอยู่แล้ว..สิ่งเหล่านี้เธอคงไม่รู้เลยสินะ..หรือฉันต้องทำตัวสำออยร้องโวยวายเรียกให้คนมาสนใจเหมือนเธอกันล่ะ
ท้องก็โครกครากข้างล่างก็จะออกข้างบนก็คลื่นไส้อยากจะอาเจียนให้ได้อยู่ตลอดเวลา..ยิ่งมาเห็นการกระทำที่ทุเรศและน่าสะอิดสะเอียนของเธอวันนี้ฉันรับไม่ไหวจริงๆมันไม่มีกำลังใจทำงานนะรู้ไหม