ตั้งแต่เริ่มเดินทางท่องเที่ยวในเมืองกรุงมาหลายปี นี่เป็นครั้งที่ 3
แล้วที่ฉันพามาเที่ยว "สวนสัตว์ดุสิต"
โดยครั้งแรกนั้นพาเด็กๆลูกๆหลานๆ มาเที่ยวสวนสัตว์ในวันเด็ก พอครั้งที่สองก็พามาส่องสัตว์ตอนกลางคืน
เพราะเขาชวนให้มา "ยามเย็น เดินเล่นในเขาดิน" กับโครงการ Dusit Evening
Zoo
แต่ที่ต้องพามาอีกเป็นครั้งที่
3 เพราะได้ยินว่าสวนสัตว์ดุสิตนี้เขามี "7 มหัศจรรย์สวนสัตว์ดุสิต" มาเป็นตัวชูโรง
ในช่วงนี้ที่ใครๆ ก็อยากไปดูแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ แต่ฉันขอมาดู 7
สิ่งมหัศจรรย์ที่สวนสัตว์ดุสิตแทนดีกว่า
แพนด้าแดงขนปุย
มหัศจรรย์สิ่งแรก เริ่มต้นกันที่
"แพนด้าแดง" กันก่อนเลย สวนสัตว์เชียงใหม่มีแพนด้าขอบตาดำ
ที่สวนสัตว์ดุสิตก็มีแพนด้าแดงขนฟูน่ารักน่าเอ็นดูไม่แพ้กัน แพนด้าแดงนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเนปาล
จีน แถบเทือกเขาหิมาลัย เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ของโลกซึ่งได้รับการคุ้มครอง
สำหรับในเมืองไทยหาชมได้ที่สวนสัตว์ดุสิตที่เดียวเท่านั้น
เจ้าแพนด้าแดงขนปุกปุยน่ากอดนี้กินใบไผ่อ่อนเป็นอาหารหลัก
และกินได้มากถึงวันละ 200,000 ใบต่อวัน โดยจะออกหากินในช่วงใกล้ค่ำ และใช้เวลาถึง 12
ชั่วโมงต่อวันในการกินอาหาร ส่วนในตอนกลางวันมันก็จะนอนอาบแสงแดดอุ่นๆ
แหม...ชีวิตช่างน่าอิจฉาเสียนี่กระไร
หากใครอยากรู้ว่าแพนด้าแดงกับแพนด้าสีขาวดำมีความเหมือนและต่างกันอย่างไร บ้าง
ก็ต้องลองมาดูกันที่นี่
ค่างห้าสี มูลค่าตัวละไม่ต่ำกว่าสิบล้าน
มหัศจรรย์ที่สอง
อยู่ข้างกรงแพนด้าแดงกันเลยทีเดียว นั่นก็คือ
"ค่างห้าสี"
ค่างที่มีสีสันสวยงามที่สุดในโลก โดยตามตัวจะมีสีตัดกันถึง 5 สี ตัวและหัวมีสีเทา
หน้าผากมีสีเทาดำออกแดง หนวดเคราสีขาว หางและก้นสีขาว ใบหน้าสีเหลือง และส่วนขามีสีน้ำตาลแดง
ค่างสีสวยชนิดนี้มักถูกลักลอบล่าเพื่อนำลูกค่างมาขาย
ทำให้ค่างห้าสีมีจำนวนลดลงจนองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าโลกต้องจัดให้ค่างชนิด นี้อยู่ในบัญชีแดง
ซึ่งหมายถึงสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ห้ามซื้อ ขาย
และล่า
แม้จะเป็นสัตว์ที่หาได้ยาก
แต่สำหรับที่สวนสวนสัตว์ดุสิตแล้วถือเป็นศูนย์เพาะพันธุ์ค่างห้าสีที่ใหญ่ ที่สุดในโลก
มีการเพาะเลี้ยงเพาะพันธุ์ค่างห้าสีจนตอนนี้มีจำนวนมากกว่า 30 ตัวด้วยกัน
โดยแต่ละตัวนั้นก็มีมูลค่าตัวละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทเลยทีเดียว