หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
ดูรายการโปรด เพิ่มเป็นรายการโปรด

ชีวิตคืออะไร ?

วันที่ 22 สิงหาคม 2562

   

 

ผมถ่ายภาพนี้ด้วยกล้องฟิล์มเมื่อปี 2548 นานจนเกือบจำไม่ได้เป็นภาพชีวิตจริงในสังคมไทย และคัดลอกบทความจากในหนังสือจริง ๆ ออกมาจะสังเกตุได้ว่ามันไม่ชัดเหมือกล้อง DIGITAL คงไม่มีใครกล้าลงทุนขนาดนี้เพราะเมื่อก่อนผมยังไม่มีเงินซื้อกล้อง DIGITAL แล้วผมก็เอาบทความนี้ไปใส่เว็บไซต์หนึ่งแห่งนานมาแล้ว

ชีวิตคืออะไร.....เป็นคำถามสั้น ๆ ฟังดูเรียบง่ายแต่ซ่อนความหมายไว้อย่างลึกซึ้ง ยังมีคนอีกมากมายที่ค้นหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่าตัวเองเกิดมาทำไม ? ชีวิตคืออะไรกันแน่ การค้นหาคำตอบดูจะเป็นเรื่องยุ่งยากและไร้สาระสำหรับบางคนและเมื่อถุกถามว่า ชีวิตคืออะไร ? เขามักจะตอบเสียมิได้ว่า ชีวิตคือตัวฉันเอง ชีวิตคือ ลมหายใจชีวิตไม่ควรสื่อความหมายเพียงตัวเราหรือสิ่งที่เคลื่อนที่ได้เท่านั้น แต่รวมไปถึงทุกสิ่ง ทุกอย่างที่มีคุณค่าด้วยตัวอย่างเช่นขวดยาคูลท์เปล่าที่ถูกทิ้งลงในถังขยะเหมือนสิ่งของไร้ค่า แต่เมื่อเก็บรวบรวมส่งโรงงานผลิตขาเทียมแล้ว ขวดยาคูลท์เปล่าก็จะกลายเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการผลิดขาเทียมให้คงทนถาวรและมีน้ำหนักเบา ช่วยให้คนพิการเดินยิ้มได้อย่างมีความสุขเหมือนคนปกติทั่วไป สิ่งไม่มีค่าสำหรับคน

หนึ่งอาจเป็นสิ่งประเมินค่ามิได้สำหรับอีกคนหนึ่ง เราจึงไม่ควรเรียกสิ่งที่ถูกไร้ค่าว่า ไร้ชีวิต และไม่ควรใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าด้วย บางคนปล่อยชีวิตให้ไหลไปตามกระแสโลกาภิวัฒน์ เหมือนปลาตายไหลตามน้ำ ชอบใช้ชีวิตแบบเสี่ยง ๆ และสิ้นเปลืองเวลากับเรื่องไร้สาระเช่นคุยโทรศัพท์นานเป็นชั่วโมง(ไม่ได้คุยเรื่้องการงาน) หายใจทิ้งไปวัน ๆ ดำรงชีวิตด้วความโกรธ อาฆาตแค้น อิจฉาริษยา หรือทำลายธรรมชาติ(ตัดไม้ทำลายป่า)ซึ่งเป็นทรัพย์พยากรของโลก พอไม่เหลืออะไรให้ทำลายแล้วก็หันมาทำลายชีวิตมนุษย์ด้วยกันเอง การทำลายชีวิตไม่ได้หมายเฉพาะการเข่นฆ่า การ

ขัดขวางหรือการเอารัดเอาเปรียบเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการมองการกระทำของคนอื่นว่าเป็นเรื่องไร้สาระอีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นการทำลายชีวิตของคนอื่นอย่างเลือดเย็น ยิ่งกว่าวิธีการอื่นทั้งหมด ไม่มีการกระทำใดหรอกที่ไร้สาระ หากการกระทำนั้นมิได้มีเจตนาที่จะทำลายผู้อื่นให้ย่อยยับ ลองนั่งหลับตานึกถึงภาพผู้ใหญ่ที่มองการกระทำของเด้กน้อยผู้คลั่งวิทยาศาสตร์ที่นำเอาวิทยุเก่า ๆ ออกมาแกะเล่น เด็กจะถูกตะคอกเสียงดัง และถูกทำหน้ายักษ์ใส่หรือเงื้อมือจะตีให้ตายเด็กน้อยคงแยกแยะไม่ออกระหว่าจริงกับเล่น การถูกปิดกันในวัยเด็กจะส่งผลถึงพฤติกรรมอันก้าวร้าวเมื่อโตขึ้นส่วนเด็กที่ได้รับการประคบ ประหงมจากพ่อ แม่ จะกลายเป็นคนไม่สู้ชีวิตเดินก้มหน้าหลบสายตาผู้คนเหมือนหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา

ชีวิตที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเดินไปทางไหนดี หรือไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองใฝฝัน เป็นเรื่องที่น่าอายหากจะเรียกมันว่า ชีวิต ความสำเร็จในชีวิตมิอาจเกิดขึ้นได้ด้วยก้าวแรกเพียงก้าวเดียวหรือด้วการก้าวเพียงครั้งเีดียว แต่จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัย ก้าว เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าเอาแต่คิดไม่ ก้าว ก็จะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้คงจำวันแรกที่เราหัดเดินได้วันนั้นเราฝึกซ้อมการพลิกตัว ลุก นั่ง คลาน ยืนเกาะไหล่ พ่อ แม่ที่ขอบเตียงเตรียมจะ ก้าว พอก้าวเท้าแรกก็ล้มลงก้นจ้ำเบ้า เราร้องไห้แต่ไม่ใช่เพราะเจ็บ เป้นเพราะกลัวว่าตัวเองจะเดินไม่ได้นั่นคือความกลัวครั้งแรกแบบเด็ก ๆ แต่หลังจากเราเล่นจนลืมความเจ็บปวดแล้วเราก็พยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง คราวนี้เราเดินได้ 2 ก้าว 3 ก้าวและเดินได้ไกลกว่าเดิม เรารู้สึกภุมิใจอยุ่ลึก ๆ ในความสำเร็จครั้งแรก ต่อมาเราก็เดินได้ วิ่งได้ พูดได้ ขี่จักรยานได้ ขับรถยนต์ได้ทำได้สารพัด ยกเว้นคิดเองยังไม่ได้และหาเลี้ยงตัวเองยังไม่ได้ชีวิตเอ๋ย ชีวิตของใครบางคนดูช่าง

ไร้ค่าเสียเหลือเกิน พ่อและแม่คือผู้ให้ชีวิต คือ ผู้รักษาชีวิต คือ แสงสว่างส่องนำทางชีวิต แต่คนที่ต้องก้าวเดินไปตามถนนสายชีวิตคือตัวเราเอง ตัวเรามีสิทธิ์เลือก มีสิทธิ์ฝันมีสิทธิ์ก้าวไปตามความใฝ่ฝันของตัวเองเลิกพูดว่าไม่มีใครให้โอกาส ฉันถูกกีดกัน ฉันถูกกลั่นแกล้ง อะไรทำนองนี้ เพราะบ่นไปถึงชาติหน้าก็ไม่ช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ซ้ำร้ายยิ่งเป็นการงับประตูแห่งชีวิตให้แคบลงไปเรื่อย ๆ ในเมื่อสองมือเรายังยกสิ่งของได้ สองเท้ายังก้าวไหว สายตายังมองเห็น หูยังได้ยินเสียงชัดแจ๋ว ร่างกายยังแข็งแรง เสริมใจให้แกร่งขึ้นมาอีกนิด เติมชีวิตด้วยรอยยิ้ม ทำตาให้ยิ้ม ทำปากให้ยิ้ม ทำใจให้ยิ้ม แล้วชีวิตก็จะพลอยยิ้มตามไปด้วย....

คัดมาจากหนังสือ กระเป๋า...สติ ของ โรมรันต์ เสวิคาร



<script language=JavaScript> </script>

เจ้าของไดอารี่

กำลังทำอะไรอยู่
ไม่ได้อัพเดทสถานะมาช่วงหนึ่งแล้ว
593 วันที่ผ่านมา

เด็กวุ่นวาย
ความสนใจ:
ภาพยนต์, คอมพิวเตอร์, กล้อง, การศึกษา, ประวัติศาสตร์
<<สิงหาคม 2562>>
อา. จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส.
    123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031

ไดอารี่วันอื่นๆ

7 กันยายน 2562
22 สิงหาคม 2562
11 สิงหาคม 2562

สถิติผู้เยี่ยมชม

ผู้เยี่ยมชมวันนี้ 27 คน
ผู้เยี่ยมชมทั้งหมด 57,668

ไดอารี่เพื่อนบ้าน

เด็กวุ่นวาย ยังไม่มีไดอารี่เพื่อนบ้าน

อัลบัมโหวตของ เด็กวุ่นวาย

เด็กวุ่นวาย ยังไม่มีอัลบัมโหวต

ไดอารี่ที่อัพเดทล่าสุด

โดย พงษ์ศักดิ์ หิรัญเขต

Google

一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧 一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧 一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧。一心念佛,放下萬緣即布施。一心念佛,伏諸煩惱即持戒。一心念佛,無諍無求即忍辱。一心念佛 不稍夾雜即精進。一心念佛,妄念不起即禪定。一心念佛,信願往生即智慧